You are here:

ทาวน์โฮมภูริ ซื้อหรือเช่า แบบไหนดีกว่ากัน

          เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ฟังการถกเถียงเกี่ยวกับการเช่าบ้านและซื้อบ้านที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะบอกว่าซื้อบ้านไปเลยย่อมดีกว่า เพราะหลังจากการซื้อบ้านเราจะกลายเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ สามารถทำอะไรกับบ้านที่ซื้อมาก็ได้ ทั้งยังกลายเป็นมรดกตกทอดให้กับลูกหลานในอนาคต และการซื้อบ้านก็มีแต่ได้กำไร เพราะราคาบ้านและที่ดินย่อมจะสูงขึ้นเรื่อยๆด้วย แต่อีกฝั่งหนึ่งอาจจะเห็นด้วยว่าการเช่าบ้านหรือเช่าหอ เช่าที่พักอาศัยนั้นสะดวกสบายกว่า ไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์มากมาย ไม่ต้องเตรียมเอกสารเยอะแยะ (ในกรณีผ่อนบ้าน) และอยากจะย้ายไปพื้นที่ใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ เพราะโดยส่วนใหญ่สัญญาเช่าบ้านมักจะเป็นสัญญาสั้นๆ แบบปีต่อปี หรือสามปี หรือบางที่อาจจะสั้นแค่หกเดือนก็มี บางที่ไม่มีสัญญาก็มี

 

ภูริเอสเตทเลยจะลองเปรียบเทียบให้ดูว่าการซื้อบ้านกับการเช่าบ้านนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันอย่างไร

1. ความเป็นเจ้าของ

          แน่นอนว่าในแง่ความเป็นเจ้าของหรือกรรมสิทธิ์ของบ้าน การซื้อบ้านไม่ว่าจะซื้อเงินสดหรือผ่อนบ้านจะทำให้คุณเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์มากกว่าการเช่าบ้าน ที่คุณจะเพียงแค่อยู่อาศัยเท่านั้น หากคุณซื้อบ้านหรือผ่อนบ้าน คุณจะสามารถขอสิทธิ์ในการต่อเติมได้ หากไม่ขัดกับข้อกฏหมาย และคุณยังสามารถเอาชื่อของตนเองและคนในครอบครัวใส่เข้าไปในทะเบียนบ้านได้อีกด้วย แต่หากเป็นการเช่าบ้านคุณคงไม่สามารถต่อเติมบ้านได้ นอกจากเจ้าของบ้านจะอนุญาตเท่านั้น นอกจากนี้การเพิ่มสมาชิกอยู่อาศัยในบ้าน ก็ต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าของบ้านเช่นเดียวกัน

2. ค่าใช้จ่ายระหว่างการซื้อบ้านและการเช่าบ้าน

          หากคุณซื้อบ้านด้วยเงินสด ก็คงไม่มีปัญหาเรื่องดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายรายเดือน แต่ก็ต้องยอมรับว่าการซื้อบ้านด้วยเงินสดเป็นการจ่ายเงินก้อนใหญ่ถึงหลักล้านเลยทีเดียว แต่หากเป็นการซื้อบ้านแบบผ่อนชำระหรือผ่อนบ้าน ซึ่งเป็นวิธีที่เป็นที่นิยมสำหรับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เพราะว่าการผ่อนบ้านจะทำให้นักลงทุนสามารถซื้อบ้านหลายหลังได้ในเวลาเดียวกัน แต่คุณเองก็ต้องจ่ายเงินดาวน์จำนวนหนึ่ง และผ่อนบ้านในแต่ละเดือนเป็นระยะเวลายาวนานตามแต่สัญญาที่คุณทำไว้กับธนาคาร แต่เมื่อคุณผ่อนบ้านหมดแล้ว บ้านหลังนั้นจะกลายเป็นบ้านของคุณโดยสมบูรณ์ แต่การเช่าบ้านนั้น คุณจะไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่เท่า อาจจะมีเพียงเงินมัดจำล่วงหน้า 2 – 6 เดือนเท่านั้น และค่าเช่าบ้านในแต่ละเดือน ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ขึ้นอยู่กับการทำสัญญาตกลงกับผู้ให้เช่า เช่นค่าน้ำค่าไฟจ่ายตามจริง ค่าส่วนกลาง เป็นต้น แต่การเช่าบ้านนั้นเงินที่จ่ายไป ในแต่ละเดือน เป็นการจ่ายเพื่อให้ตัวคุณได้สิทธิ์ในการอยู่อาศัยชั่วคราวเท่านั้น บางคนอาจจะมองว่าเป็นการจ่ายเงินเปล่าทิ้งไป เพราะสุดท้ายบ้านหลังนั้นก็จะไม่ใช่ของคุณอยู่ดี

3. ความสะดวกสบายในชีวิต

          ความสะดวกในชีวิตอย่างเช่นการย้ายที่ทำงาน การย้ายสถานที่อยู่ การเพิ่มจำนวนสมาชิกในครอบครัว ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ อย่างเช่นได้งานที่ใหม่ที่อยู่ไกลออกไป หรือสมาชิกในครอบครัวเพิ่มจำนวนจนไม่สามารถอยู่อาศัยที่เดิมได้ ต้องการขยับขยาย ถ้าหากเป็นการเช่านั้น แค่เพียงบอกเลิกสัญญาเช่าก็สามารถจัดหาที่อยู่ใหม่และย้ายออกได้ทันที แต่ถ้าหากเป็นการซื้อบ้านจะย้ายออกอย่างไรก็ยังเป็นเจ้าของบ้านอยู่ และการขายต้องใช้เวลาระยะนึง แต่หลายคนก็หาทางออกด้วยการหาผู้มาเช่าบ้านจนกว่าจะขายได้ก็มี ก็ทำให้การขยับขยายหรือเปลี่ยนที่อยู่ไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้ซื้อบ้าน บางคนปล่อยให้ผู้อื่นมาเช่าบ้านโดยที่ตนเองยังมีสถานะเป็นเจ้าของ เผื่อได้ย้ายกลับมาอยู่ในพื้นที่เดิม ก็สามารถกลับมาอยู่ได้อย่างง่ายดาย

4. การบำรุงรักษา

          บ้านที่อยู่อาศัยมานานย่อมจะเกิดการเสื่อมโทรมและทรุดโทรมเป็นธรรมดา เจ้าของบ้านต้องดูแลรักษาและปรับปรุงให้อยู่ในสภาพดีสม่ำเสมอ แม้ว่าจะเป็นการซื้อบ้านเพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ก็ตาม คุณก็ต้องดูแลบ้านให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ หากคุณเลือกจะซื้อบ้าน นั่นหมายถึงคุณเป็นเจ้าของบ้านโดยสมบูรณ์ แน่นอนว่าหน้าที่การบำรุงรักษาและดูแลบ้านย่อมต้องตกเป็นของคุณอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่หากคิดในแง่ที่ว่า หากคุณเป็นผู้เช่าบ้านคงไม่มีปัญหาในการที่ต้องมาดูแลบำรุงรักษา แต่อย่าลืมว่าหากบ้านที่คุณเช่าเกิดปัญหาอย่างเช่นท่อน้ำรั่ว ก๊อกน้ำพัง คุณก็ต้องรอให้เจ้าของบ้านมาซ่อมแซม ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าของบ้านอาจจะไม่ได้เร่งรีบแก้ไข เพราะไม่ใช่ผู้ประสบปัญหาโดยตรง คุณอาจจะต้องรอจนกว่าเจ้าของบ้านจะมาดูแลจัดการให้ ซึ่งระหว่างนั้นอาจจะทำให้ชีวิตของคุณลำบากอยู่เหมือนกัน

5. ความสบายใจ

          ใครๆก็ต้องการความสบายใจ แม้การซื้อบ้านแบบผ่อนชำระหรือผ่อนบ้านนั้นอาจจะทำให้คุณต้องมีค่าใช้จ่ายในระยะยาว แต่มันก็ช่วยสร้างความมั่นใจให้คุณได้ว่า คุณมีที่อยู่อาศัยที่ถาวร หรือจะเรียกว่ามีที่ลงหลักปักฐานตั้งรกรากชีวิตก็ว่าได้ คงไม่มีใครมาไล่คุณออกจากบ้านของตัวเองได้ แต่หากเป็นการเช่าบ้าน ก็ต้องยอมรับว่า ผู้ให้เช่าบ้านอาจจะยกเลิกสัญญาเพื่อนำบ้านไปขาย หรือเพื่อจะกลับมาอยู่อาศัยเองก็ได้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นได้สำหรับผู้ที่ตัดสินใจเช่าบ้าน

          การซื้อบ้าน ผ่อนบ้าน และการเช่าก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ก่อนจะตัดสินใจเลือกเช่าบ้านหรือซื้อบ้าน ทั้งเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ก็ต้องดูไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตนเอง และดูกำลังจ่าย รวมถึงปัจจัยความต้องการอื่นๆ และยังรวมไปถึงจุดมุ่งหมายและโครงการต่างๆในชีวิตประกอบการตัดสินใจไปด้วย เพื่อจะได้ตัดสินใจได้ว่า การเช่าบ้านหรือการซื้อบ้านกันแน่ที่จะสามารถตอบโจทย์ชีวิตคุณได้ดีที่สุด!

บทความอื่นๆ