You are here:

เปรียบเทียบการเดินทางระหว่างรถส่วนตัวและรถสาธารณะ

          การคมนาคมเป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตประจำวัน เพราะทุกคนต้องเดินทางไปทำงาน เดินทางไปติดต่อธุระ ซื้อของ และเดินทางเพื่อจุดมุ่งหมายอื่นๆที่แตกต่างกันออกไป การคมนาคมจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่กระทบต่อการดำรงชีวิตโดยตรง รวมไปถึงเมื่อจะซื้อบ้านสักหลัง เกือบทุกคนต้องศึกษาเรื่องการเดินทางในพื้นที่บ้านที่ตนเองสนใจ หากตัวเลือกในการคมนาคมมีจำกัด หลายคนอาจจะเลือกปฏิเสธที่จะซื้อบ้านบนทำเลนั้นๆเลยก็ได้ ซึ่งตัวเลือกในการคมนาคมการเดินทางในปัจจุบัน จะแบ่งเป็นสองแบบหลักๆคือการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวและการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งทั้งสองแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป ภูริเอสเตทเลยจะเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของการเดินทางทั้งสองแบบ เพื่อให้เห็นถึงข้อดีข้อเสียของการเดินทางทั้งสองแบบชัดเจนขึ้น

ข้อดีของรถยนต์ส่วนตัว

  • ความสะดวกสบาย

มีแอร์คอนดิชันเนอร์ มีกระจกรอบด้าน ผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ต้องเผชิญกับฝุ่นควันและมลพิษโดยตรง

 

  • ความเป็นส่วนตัว

ไม่มีผู้โดยสารอื่นร่วมด้วย ยกเว้นผู้ที่เจ้าของรถอนุญาตให้ร่วมทางด้วยเท่านั้น

 

  • เปลี่ยนเส้นทางได้ตามสะดวก

หากรถติด หรือต้องการแวะเข้าห้องน้ำ ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางหรือแผนการเดินทางได้ทันทีเพราเป็นเจ้าของรถ

 

  • กำหนดความปลอดภัยได้เอง

เนื่องจากขับขี่ด้วยตนเอง ความปลอดภัยจึงมาจากผู้ขับขี่เป็นหลัก

ข้อเสียของรถยนต์ส่วนตัว

  • ค่าเชื้อเพลิงค่อนข้างสูง

เพราะปัจจุบันราคาน้ำมันในประเทศค่อนข้างสูง หลายคนจึงเลี่ยงมาใช้แก๊สแทนน้ำมันเพื่อลดค่าใช้จ่าย

 

  • ค่าบำรุงรักษาสูง

นอกจากน้ำมันแล้ว รถยนต์ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เป็นภาระให้กับเจ้าของรถ เช่น ค่าล้างรถ ค่าเข้าศูนย์ ค่าเช็คระยะ ค่าประกันเมื่อถึงกำหนดหนึ่งปี ค่าต่อภาษี และอีกมากมาย ซึ่งเจ้าของรถต้องเป็นผู้รับภาระนี้

ข้อดีของรถโดยสารสาธารณะ

  • ไม่มีค่าดูแล

เพราะไม่ใช่เจ้าของรถ โดยสารเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรที่เกี่ยวกับรถ แค่ไม่สร้างความรำคาญและทำความเสียหายให้รถส่วนรวมก็พอ

 

  • ไม่ต้องขับเอง

หากโดยสารรถสาธารณะแล้วได้นั่งก็สบายไป เพราะคุณอาจจะงีบหลับได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้ขับนั่นเอง

 

  • มีตัวเลือกให้เลือกหลากหลาย

ปัจจุบันรถโดยสารสาธารณะมีให้เลือกมากมาย ทั้งรถเมล์ รถตู้ รถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รถแท็กซี่ซึ่งอาจจะพาคุณไปยังจุดหมายปลายทางด้วยเส้นทางที่แตกต่างกัน ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ตามสะดวก รวมถึงเลือกค่าโดยสารที่เหมาะสมกับคุณได้ ซึ่งแตกต่างกันออกไปตามความรวดเร็วและความสะดวกสบายในการเดินทาง อย่างเช่น รถเมล์เป็นรถโดยสารที่สะดวกสบายน้อยที่สุดก็จะมีราคาค่าโดยสารที่ต่ำสุด รถไฟฟ้ามีความสะดวกสบายและความรวดเร็วมากขึ้น ราคาก็ขยับสูงขึ้นเช่นเดียวกัน และรถแท็กซี่สะดวกสบายและมีความเป็นส่วนตัวคล้ายรถส่วนตัวราคาจึงสูงตามไปด้วย

ข้อเสียของรถโดยสารสาธารณะ

    • ต้องโดยสารร่วมกับผู้อื่น

    ซึ่งคุณอาจจะไม่รู้ว่าเป็นใคร บางคนอาจจะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมได้ในบางครั้ง

     

    • เลือกเส้นทางเองไม่ได้

    ถึงแม้จะมีรถสาธารณะให้เลือกหลากหลาย แต่ก็เป็นเส้นทางที่กำหนดไว้แล้วของรถโดยสารนั้นๆ ผู้โดยสารไม่สามารถกำหนดเส้นทางเองได้ นอกจากแท็กซี่ แต่ราคาค่าโดยสารก็จะสูงขึ้น แต่ปัจจุบันรถไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เส้นทางการเดินรถโดยสารสาธารณะค่อนข้างจะสั้นลง และรวดเร็วมากขึ้น

     

    • กำหนดความปลอดภัยเองไม่ได้

    เพราะไม่ใช่ผู้ขับขี่ บางครั้งหากเจอผู้ขับขี่ที่ไม่ระมัดระวังก็อาจจะเกิดความเสี่ยงได้ ยกเว้นรถไฟฟ้าที่ความเสี่ยงถือว่าค่อนข้างน้อยเพราะมีพื้นที่ในการวิ่งเฉพาะ

     

    จะเห็นได้ว่าทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารประจำทางนั้นต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป หากเป็นความสะดวกสบายคงไม่ปฏิเสธว่ารถยนต์ส่วนตัวสามารถตอบโจทย์ได้อย่างชัดเจน แต่ปัจจุบันรถโดยสารสาธารณะเองก็ได้รับการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าไปสู่ชานเมืองมากขึ้น อย่างเช่นพื้นที่รังสิตที่เป็นส่วนขยายของรถไฟฟ้าสายสีแดง และพื้นที่ลำลูกกาที่เป็นพื้นที่ส่วนขยายของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทำให้การเดินทางในพื้นที่ชานเมืองสะดวกสบายมากขึ้น ผู้คนย่านชานเมืองสามารถเดินทางเข้ามาสู่ใจกลางเมืองได้สบายมากขึ้น และที่สำคัญยังสามารถกำหนดระยะเวลาในการเดินทางด้วยตนเองได้แม่นยำมากขึ้น เพราะรถไฟฟ้าไม่ต้องเผชิญกับรถติดนั่นเอง

บทความอื่นๆ